สถิติผู้เข้าชม
 ขณะนี้มีผู้เข้าใช้ 2
 ผู้เข้าชมในวันนี้ 4
 ผู้เข้าชมทั้งหมด 111,718
กรุณาฝาก Email ของท่าน
  เพื่อรับข่าวสาร ที่น่าสนใจ
27 มีนาคม 2566
อา จ. อ. พ. พฤ ศ. ส.
   
10  11 
12  13  14  15  16  17  18 
19  20  21  22  23  24  25 
26  27  28  29  30  31   
             
 ดอกไม้สวยที่บ้านม่านหมอก
 
smileyดอกไม้สวยภายในบริเวณ  บ้านม่านหมอกsmiley
 
  

ดอกศรีมาลา หรือ ดอกมังกรแดง เป็นดอกไม้ที่เห็นรูปทรงของดอกไม้ชนิดนี้แล้วแปลกตามากๆ
กลีบดอกจะห้อยย้อยลงตรงกันข้ามกับเกษรของมันเลย ดอกศรีมาลาเป็นไม้เลื้อยขนาดแข็งขนาดเล็ก
มีอายุหลายปี ลำต้นมีขนปกคลุม นิยมปลูก : เป็นไม้ประดับให้สีสันสดใส ออกดอกในช่วงเดือน พ.ย.-ก.พ.


 

 

ไม้เสลา  ชื่ออื่น เกรียบ ตะเกรียบ (ชอง-จันทบุรี), ตะแบกขน (นครราชสีมา), เสลาใบใหญ่ (ทั่วไป) 
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ สูง 10–20 เมตร เรือนยอดกลมทึบ กิ่งห้อยลง ใบ เป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน
แผ่นใบรูปขอบขนาน ปลายใบเรียวแหลมเป็นติ่งโค้งมน ผิวใบมีขนนุ่มทั้งสองด้าน ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง
สีม่วง ม่วงอมชมพูหรือม่วงอมขาว ออกดอกช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคม ผล
มีเมล็ดมีปีกจำนวนมาก  ถิ่นกำเนิด ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 


 
เอื้องพร้าว เป็นกล้วยไม้ดินที่มีหัวขนาดใหญ่ ใบสีเขียวเป็นแถบกว้าง บาง มีแนวพับจีบตามยาว ปลายใบแหลม
ช่อดอกยาว งอกจากโคนต้น กลีบดอกสีน้ำตาลอมม่วง กลีบดอกด้านหลังสีขาว ปากดอกสีชมพูอมม่วง
ออกดอกช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน หรือขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการปลูกเลี้ยง


 
ม่วงมงคล หรือ โคลงเคลง เป็นไม้ดอกล้มลุก 


 

   
ต้นหงส์เหิร หรือ swan Plant บางทีก็เรียก balloon flower ถ้าทางเหนือก็เรียก หำแพะ 
หรือไม่ก็ .......พระอินทร์ อิอิเขียนไม่ได้ ไว้มาถามเจ้าของบ้านเอาเองละกัน



 
ดอกถ้วยทอง ลักษณะดอกก็ตามชื่อคือเหมือนถ้วยรางวัลสีทอง มีกลิ่นหอมอ่อนๆ



         


ดอกพุดน้ำบุศย์ ป็นไม้พุ่มขนาดเล็ด สูง 1-2 เมตร แตกกิ่งจำนวนมาก กิ่งเปราะ ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามเป็นคู่ ใบรูปรี ยาว 10-15 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม แผ่นใบหนา เรียบเป็นมันทั้งสองด้าน เส้นใบย่อยเห็นเป็นร่อง ดอกเดี่ยวออกที่ซอกใบใกล้ปลายยอด โคนกลีบดอกเป็นหลอด ยาว 6-8 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 6-9 กลีบ ดอกแย้มมีสีขาวต่อมาเปลื่ยนเป็นสีเหลือง มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5-6 เซนติเมตร



           

         
ดอกพุดแตรงอน เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 1-2 เมตร แตกกิ่งจำนวนมาก เป็นพุ่มเตี้ยและแน่นทึบ กิ่งเปราะ ใบเดี่ยว ออกตรงข้ามเป็นคู่ รูปรียาว 6-10 เซนติเมตร แผ่นใบบาง เห็นเส้นใบย่อยเป็นร่องลึกชัดเจน ขอบใบเป็นคลื่น ดอกเดี่ยว ออกที่ซอกใบใกล้ปลายยอด สีขาว ดอกห้อยลงเนื่องจากมีก้านดอกยาว รับน้ำหนักดอกไม่ไหว โคนกลีบดอกเชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 10-12 เซนติเมตร ปลายกลีบแยกออกเป็น 5 กลีบ เมื่อบานมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 6-8 เซนติเมตร เมื่อใกล้โรยจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน



          

ดอกพุดตะแคง เป็นพรรณไม้จากต่างประเทศ เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 1-2 เมตร แตกกิ่งจำนวนมาก ทรงพุ่มกลม ใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามและรวมเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง รูปใบหอกยาว 4-8 เซนติเมตร ดอกเดี่ยว โคนกลีบดอกเป็นหลอดยาว ปลายแยกเป็น 5 กลีบ บิดงอ ขอบกลีบซ้อนเกยกัน บานเอียงตะแคงคว่ำลง เมื่อเริ่มบานสีขาว และจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง





 

    

กัลปพฤกษ์เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-15 เมตร เปลือกนอกสีเทาลำต้นมีรอยเป็นเส้นเก็กน้อย
แตกกิ่งก้านพุ่งสู่ด้านบนไม่ค่อยเป็นระเบียบ ใบเป็นแผงมีใบย่อยประมาณ 5-6 คู่ออกเรียงตรงกันตามก้านใบเป็นคู่ๆใบบางเรียบ
ปลายใบแหลม ขนาดของใบกว้างประมาณ 2-4 เซนติเมตร ใบยาวประมาณ 4-7 เซนติเมตรดอกออกเป็นช่อตามกิ่งก้านมีกลิ่นหอม
มีสีชมพูแกมขาวดอกบานจะมีความกว้างประมาณ23เซนติเมตรมีกลีบดอก5กลีบตรงกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้สีเหลืองผลเป็นฝักกลม ยาว มีสีดำ เมื่อแก่เนื้อในฝักมีสีขาวกั้นเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นจะมีเมล็ดเรียงอยู่ภายใน ฝักหนึ่งยาวประมาณ 15-30 เซนติเมตร




นางพญาเสือโคร่ง เป็นพืชดอกในสกุล Prunus ออกดอกช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ พบทั่วไปบนภูเขาตั้งแต่ความสูง 1,200-2,400เมตรจากระดับน้ำทะเล เช่น ภูลมโล จังหวัดเลย, ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย, ดอยเวียงแหง ดอยอ่างขาง ขุนช่างเคี่ยน ขุนแม่ยะ จังหวัดเชียงใหม่





ดอกสบันงา เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 2-4 เมตร เปลือต้นเรียบ สีดำ และมีกลิ่นฉุน ใบเดี่ยว รูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน ยาว 22-30 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลมและมีติ่ง แผ่นใบหนาแข็งเป็นมันทั้งสองด้าน ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบตามลำต้นและกิ่ง เมื่อบานมีสีเขียวอมเหลือง กลีบดอกชั้นนอก 3 กลีบ รูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน ยาว 4-5 เซนติเมตร ขอบกลีบห่อเล็กน้อย ผลกลุ่ม มีผลย่อย 8-15 ผล เมื่อแก่มีสีแด





มาลัยทอง เป็นไม้เลื้อยพันไม่มีมือเกาะ ลำต้นหรือเถาจะเลื้อยไปเรื่อยๆ สามารถเลื้อยได้ไกลถึง10-20 เมตร ใบเป็นใบประกอบแบบมีใบย่อย 3 ใบ รูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ผิวใบไม่เรียบ ดอกออกเป็นช่อแบบรวงข้าวที่ปลายยอด ช่อดอกจะห้อยลง ดอกย่อยมีใบประดับสีเหลืองรองรับ ดอกจริงมีขนาดเล็กสีขาวอยู่ภายใน กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ไม่มีกลิ่นหอม ดอกบานนาน ไม่ติดผล


ตีนเป็ดแดง มีเพียง 2 ชนิดทั่วโลก พบมากที่สุดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคมาเลเซีย ในประเทศไทย มีเพียงสายพันธุ์เดียวคือ DYERA COSTULATA (MIQ) HOOK.F มีขึ้นตามป่าดิบชื้นระดับต่ำทางภาคใต้ตอนล่างแถบจังหวัดสตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ปัจจุบันต้น ตีนเป็ดแดงที่พบวางขาย ผู้ขาย ระบุว่า เป็นสายพันธุ์นำเข้า จากประเทศออสเตรเลีย กำลังเป็นที่นิยมของผู้ปลูกประดับอย่างแพร่หลาย เพราะดอกมีสีสันสวยงามและมีกลิ่นหอม ดอกบานได้เกือบครึ่งเดือน ดอกออกตลอดทั้งปี




ราชพฤกษ์สีชมพู ต้นนี้บังเอิญได้พบเมื่อไม่นานนี้เอง ซึ่งต้นนี้อยู่ที่หลังตลาดประตูเชียงใหม่หลายสิบปีแล้วเพราะต้นใหญ่ดอกอยู่สูง เก็บภาพได้ไม่ค่อยสวยหลายครั้งแล้ว ตอนแรกไม่แน่ใจว่าเรียกชื่อถูกไหม แต่เมื่อดูที่ใบแล้วเหมือนกับราชพฤกษ์สีเหลือง รวมทั้งได้ค้นหาภาพเพิ่ม ซึ่งมีผู้จำหน่ายต้นราชพฤกษ์สีชมพูและสีขาว จึงได้ทราบเพิ่มอีกว่า สีขาวก็มี สีขาวทั้งช่อดอก ซึ่งยังไม่เคยได้พบเห็นดอกจริง

 


ดอก พวงคราม  เป็นไม้เลื้อยที่มีเถาใหญ่แข็งแรง เนื้อแข็ง ลำต้นและกิ่งก้านก็ค่อนข้างแข็ง เถาอ่อนก็มี ขนแต่เมื่อเถาแก่ขนก็จะหายไปเปลือกของต้นหรือเถาเป็นสีขาวหรือสีน้ำตาลอ่อนเสามารถเลื้อยคลุมต้นไม้อื่นไปได้ไกลมากกว่า 20 ฟุต ใบ พวงครามเป็นไม้ใบเดี่ยว
 

      ต้นคำหมอกหลวง   เป็นไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูง 7-15 เมตร มีทรงพุ่มสวยงาม ออกดอกจำนวนมาก แตกกิ่งน้อย กิ่งอ่อนมีขน ปลายยอดมียางเหลืองข้นเป็นก้อนติดอยู่ ใบรูปรีหรือไข่กลับ ดอกเดี่ยวสีขาวนวล แล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข็ม ออกตามซอกใบ โคนกลีบดอกเชื่อมกันเป็นหลอดยาว ปลายแยกเป็น 5 กลีบ เมื่อบานมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5-7 เซนติเมตร ผลรูปรี เมื่อแก่เป็นสีดำ มีเมล็ดจำนวนมาก      
 


ต้นหนำเลี๊ยบ อยู่ในวงศ์ Apocynaceae ชื่อวิทยาศาสตร์ Kopsia arborea Blume ชื่อท้องถิ่น เข็มป่า พุดดง มะดีควาย บางแห่งก็เรียก ปิ่นมาลา ใบเรียวแหลม ดอกสีขาวเป็นกระจุก ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับ ดอกมีกลิ่นหอม
 


แคฝรั่ง: อาคันตุกะจากอีกซีกโลก

     แคฝรั่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Gliricidia  Sepium  อยู่ในวงศ์ PAPILIONOIDEAE (LEGUMINOSAE) เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลาง สูงราว ๑๐เมตร (๕-๑๕เมตร) ลำต้นค่อนข้างตรง กิ่งก้านสาขาน้อย เปลือกหุ้มลำต้นสีเทาอ่อน (ขี้เถ้า) เมื่อต้นแก่เปลือกจะแตกเป็นสะเก็ด
     ใบ เป็นใบรวมแบบขนนก ออกเป็นคู่ย่อยเรียงตัวแบบตรงข้ามกันไปตามก้านใบ มีใบย่อยรวม๑๑-๑๕ใบต่อก้านใบรวม ขนาดใบย่อยกว้าง ๑-๒ เซนติเมตร ยาว ๓-๕ เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบทู่ หน้าใบสีเขียวเข้ม หลังใบสีเขียวนวล มีขนสั้นละเอียดนุ่มปกคลุม ใบอ่อนสีน้ำตาล ขอบใบเรียบไม่มีจัก ใบจะร่วงหล่น (ผลัดใบ) ช่วงฤดูหนาวเดือนตุลาคม-ธันวาคม
     ดอก ออกเป็นช่อตามโคนก้านใบและตาดอกที่ลำต้น ช่อยาว ๕-๑๒ เซนติเมตร ดอกสีชมพู-ขาว รูปร่างคล้ายผีเสื้อ เช่นเดียวกับดอกถั่วอื่นๆ ออกดอกช่วงผลัดใบแล้วราวเดือนธันวาคม-พฤษภาคม 
     ผล แคฝรั่งเป็นฝักแบน เมื่อแก่เปลือกฝักเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำตาล/ดำ โคนและปลายฝักแหลม เมื่อแก่ฝักจะแตกทั้ง ๒ ด้าน มีเมล็ดแบนรูปไข่สีดำ ๓-๘ เมล็ด/ฝัก ฝักแก่ราวเดือนสิงหาคม-ตุลาคม
     ถิ่นกำเนิดดั้งเดิมของแคฝรั่งอยู่ในเขตร้อนทวีปอเมริกา บริเวณประเทศเม็กซิโก โคลัมเบีย เวเนซุเอลา ถูกนำเข้ามาในประเทศไทยเพื่อใช้เป็นไม้ประดับประมาณ ๑๐ ปีมาแล้ว จึงไม่ปรากฏในหนังสืออักขราภิธานศรับท์ พ.ศ. ๒๔๑๖ เพราะเข้ามาในประเทศไทยหลังจากนั้น
     ชื่อที่เรียกในประเทศไทยคือแคฝรั่ง ส่วนในภาษาอังกฤษเรียก Mother of Cocoa, Quick Stickและ Madre de Cocoaในภาษาเสปน


โศกเหลือง  เป็นพันธุ์ไม้ที่มีการกล่าวถึงบ่อยครั้งในวรรณคดีไทย ส่วนใหญ่เป็นการกล่าวถึงความเศร้าโศกในการพลัดพรากจากผู้เป็นที่รัก เนื่องจากต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างๆ จึงมักพบชื่อโศกในวรรณคดีประเภทนิราศ ซึ่งบรรยายถึงความห่วงหาอาวรณ์ และเมื่อได้เห็นต้นโศกก็ยิ่งทำให้เศร้าหมองยิ่งขึ้น 


    

    




 

                                                                    ต้นบัวสวรรค์                                                     ดอกดาหลาสีขาว
 

 

                                                                                             กล้วยไม้ แปรงสีฟัน

 

             

      

       

     

        

        

    
 

       

      

  

   
 




          


Copyright by banmanmok.com
Engine by MAKEWEBEASY